THAI Airways, we really need a big change!

การบินไทยอยู่ในใจคนมากพอให้ค้นหามากแค่ไหน? 

สำหรับไทยเราแล้ว เชื่อว่าคนยุค90อย่างผม
ทุกคนจะจำโฆษณาที่Taxiฝรั่งตกใจเมื่อลูกค้าที่ขึ้นรถมา "TG การบินไทย... โอ้ววววว"
แล้วเหยียบรถอย่างไวเพื่อมาส่งผู้โดยสารให้ทันขึ้นเครื่อง เพราะTGตรงเวลามาก
หรือโฆษณาซึ้งๆ ที่ดูแลผู้โดยสารเหมือนญาติมิตร ในช่วงปี2000กว่าๆ
ก็เป็นภาพจำที่สวยหรูของใครหลายคน ที่มีต่อการบินไทย

แต่มาถึงวันนี้ วันที่สายการบินแห่งชาติกำลังตกเป็นเป้าสายตา

ถาโถมมากมาย ยิ่งล่าสุดก็มีกระแสมาให้คุยกันรายวัน 

ทั้งเรื่องที่ผู้โดยสารลงคลิปเรื่องที่ยังมีถาดอาหารวางค้างไว้จนLanding ซึ่งกระทบSafety

ไปจนถึง คุณภาพของเครื่องที่ให้บริการ เมื่อเทียบกับค่าตั๋ว
ที่หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าถ้าจะจ่ายก็ต้องคิดหนัก

วันนี้ผมคงไม่พูดถึงเรื่องเหล่านั้น แต่อยากมาลองชวนตั้งคำถาม
ผ่านการวิเคราะห์พฤติกรรมการค้นหาของพวกเราว่า

การบินไทยอยู่ในใจคนมากพอให้ค้นหามากแค่ไหน? 

เนื่องจากการบินไทยเป็นสายการบินระดับชาติ
เราก็ต้องเริ่มด้วยเวทีโลกว่า การบินไทยมีใครค้นหาบ้าง? และเทียบกับเจ้าอื่นๆได้ไหม?

เลยเทียบกับอีก 4 สายการบิน ที่เชื่อว่าคนไทยค่อนข้างนิยมและคุ้นหูคือ
Thai (TG), Singapore (SQ), Qatar(QR), Emirates(EK), JAL(JL)

โดยภาพนี้จะขอย้อนไปไกลสักนิดนึงสัก 20ปี...

ภาพเปรียบเทียบการค้นหาเทียบ 5 สายการบิน : ไทย สิงคโปร์ กาตาร์ เอมิเรตส์ เจแปน โดยเอาเทรนด์การค้นหาแบบWorldwide

จากภาพอยากชวนเพื่อนๆลองวิเคราะห์พิจารณาสัก 3นาที ก่อนอ่านต่อดีไหม ว่าคิดเห็นอย่างไร...
.

.

.

.

หากครบ 3นาทีแล้ว ลองมาคุยกันหน่อยดีกว่า ว่าเราเห็นอะไรเหมือน/ต่างกันไหม
สำหรับผมที่เห็นไวๆ ลิสต์ออกมา 7 ข้อดังนี้

1. บางสายการบินมีการค้นหาเพิ่มขึ้น(EK, QR) บางสายการบินมีการค้นหาลดลง(JAL,TG,SQ)
   
   
2. เห็นจุดสูงสุดของการค้นหาในช่วง 2014-2015 ซึ่งทั้งEKและQRก็มีช่วงพีคๆในช่วงเดียวกัน
   
   
3. น่าสนใจว่า JAL มีการค้นหาเพิ่มสูงขึ้นในปี 2017 และยังยืนหยัดอยู่ได้ แม้จะยังไม่เท่าอดีต
   
   
4. เชื่อว่าทุกคนเห็นเหมือนกันคือ Covid-19 ช่วง Jan'20-Apr'21 คือหลุมดำของทุกสายการบินโดยแท้จริง
   
   
5. หลังCovid-19 หลายสายการบินอย่าง EK, QR, SQ turn aroundกลับมาได้เร็วและกลับไปเกือบเท่าช่วงก่อนโควิดแล้ว และQRนี่ยิ่งน่าสนใจที่อาจกลับมาได้ดีกว่าตอนก่อนCovidด้วยนะ
   
   
6. JLหลังโควิดกลับมาช้ากว่าสายการบินอื่นๆ 
   
   
7. TG ดูจะกลับมาได้น้อยกว่าช่วงก่อนโควิดมาก (averageช่วงก่อนcovidอยู่ที่12-13 แต่ตอนนี้คือ 8-9 แปลว่าจากvolumeการค้นหามีสัดส่วนลดลงเมื่อเทียบกับรายอื่นๆ)

ดังนั้น สำหรับผมตอนนี้หากมองภาพในตอนนี้
QR อยู่ในแดน +
EK,SQ,JL อยู่ในเกณฑ์ nuetralค่อน+
TG มีแนวโน้มค่อน -

ขอพาไปลองดูในแบบ map ดูบ้าง 

ก็จะเห็นว่า การบินไทยTGกับJLได้คนค้นหาเยอะก็แค่ในบ้านตัวเองนี่แหละ, EK นี่ดีมากเลยได้Coverageกว้างขวางมาก ส่วน, SQ ค่อนข้างไปได้ดีกับกลุ่ม SouthEast Asiaและจีน ส่วนQRหากdigลงไปดูจะพบว่าเป็นเหมือนEK ก็อาจอนุมาณได้ว่าเป็นตัวเลือกรองๆต่อจากEK

ถึงตรงนี้ ลองมาดูภาพworld map แยกของแต่ละสายการบินดูบ้างดีกว่า

จะเห็นว่าจุดที่น่าสนใจจากmapนี้คือ สายการบินกลุ่มอาหรับอย่าง EK, QR มีการค้นหามากในกลุ่มทวีปแอฟริกาและยุโรปตะวันออกด้วย ในขณะที่JLไม่ค่อยได้รับความสนใจจากกลุ่มสแกนดิเนเวีย

พอมาถึงตรงนี้หลายคนก็อาจเห็นแล้วว่าตลาดนอกบ้าน

 

การบินไทยกำลังตกอยู่ในที่นั่งลำบากระดับหนึ่งเลยนะ

และการที่TGมีการให้ความสนใจค้นหามากอยู่แค่ในไทย

แต่กระแสที่ออกมากับคนไทยไม่ค่อยดีนัก

ก็ยิ่งน่าเป็นห่วงมากขึ้นกว่าเดิมอีก!!!

ถ้ามันน่าห่วง งั้นลองมาดูตลาดในบ้านดูบ้าง

จับเทียบกับสายการบินภายในประเทศ โดยลองเทียบกับสายการบินที่หลายคนใช้บริการอันดับต้นๆ ไม่ว่าจะ Airasia, ไทยสไมล์, นกแอร์, หรือบางกอกแอร์เวย์ที่เป็นfull-serviceเหมือนกัน

กราฟท์เทียบการค้นหาของทั้ง5สายการบินในประเทศ

 

ใครก็ได้หาการบินไทยกับไทยสไมล์ให้ที

ในประเทศ...การบินไทยก็ดูจะเหนื่อยไม่แพ้กัน

จากทั้งGraphและMaps จะเห็นว่า

1. Low-cost airline ได้ช่วงชิงตลาดไปมากแล้ว โดยเฉพาะตั้งแต่ปี 2009เป็นต้นมา
   
   
2. นกแอร์ ตั้งแต่ปี2016เป็นต้นมาก็ได้รับความสนใจน้อยลงอย่างมีนัยยะ (หากย้อนดู ผมคุ้นๆว่าเป็นช่วงเดียวกับที่มีข่าวของคุณพาที CEOในขณะนั้นของนกแอร์ ดังนั้นการที่Brandผูกกับpersonal brandingนี่ก็เป็นcase studyที่ดีว่าทำให้brandดังได้ก็ดับได้)
   
   
3. บางกอกแอร์ก็คงสถานการณ์ได้เรื่อยๆ ซึ่งเมื่อดูจากmap ก็ไม่แปลกใจเพราะที่ๆค้นหาเยอะคือ สุราษฎร์ธานี ซึ่งมีcash cow airportของบางกอกอย่าง "สมุย" อยุ่นั่นเอง
   
   
   
4. ไทยสไมล์มาเรื่อยๆเรียงๆ ถ้าจะช่วงชิง ตอนนี้ต้องลุยเลย อย่าชิวเหมือนแบรนด์พี่เขา
   
   
5. และช่วงหลังcovid-19 สายการบิน Low-costอย่าง airasia,ไทยสไมล์,นกแอร์ มีการขยับตัวขึ้นมาช้า ในขณะที่กลุ่มfull-serviceอย่างการบินไทยและบางกอก พอจะมีลูกค้าค้นหามากพอๆกับช่วงก่อนCovid
   
   

ซึ่งหากมองโดยรวมเทียบกับสถานการณ์เศรษฐกิจก็อาจคาดได้ว่ากลุ่มฐานลูกค้าในประเทศของการบินไทยและบางกอกฯยังไม่กระทบมากนักและยังมีกำลังเดินทางได้อยู่ แต่กระนั้นกลุ่มlow-costก็คงต้องปรับตัวหาฐานลูกค้าใหม่ ซึ่งแน่นอนนั่นก็คือกลุ่มคนที่ยังไม่กระทบยังคงบินไปมาได้อยู่ ดังนั้นกลุ่มfull-serviceก็ต้องระวังโดนแย่งลูกค้า

ตอนนี้จึงเป็นช่วงสำคัญของการบินไทย

ที่จะต้องทำอะไรสักอย่าง...อย่างจริงจัง

เพื่อรักษากลุ่มลูกค้าที่ยังยอมใช้บริการอยู่
กอบกู้สร้างชื่อเสียงให้กลับมาอีกครั้ง

อย่างน้อยก็ขอให้ยืนหยัดแข็งขึ้นในบ้านให้ได้

และหวังว่าจะเห็นสายการบินแห่งชาติของไทย

กลับมาสง่างามได้อีกครั้ง...

ถึงตรงนี้หลายคนอาจสงสัยว่าตอนแรกทำไมผมยก JAL airline มาด้วย

    ถ้าคนที่สนใจด้านBusiness น่าจะเคยได้ยิน Case Study ของJAL airline ที่ยื่นล้มละลายในปี2010 ซึ่งสามารถแก้ไขสถานการณ์เปลี่ยนแปลงองค์กรที่ต้วมเตี้ยมกลับมาทำกำไรได้ใน2ปีให้หลัง และกลับมาเป็นสายการบินแห่งชาติได้อีกครั้งในปี2017 ใครสนใจก็ลองค้นหาดูนะครับ ชื่อคุณ คาซึโอะ อินาโมริ 

ซึ่งเมื่อพิจารณาดูมันละม้ายคล้ายTGเลยเนอะ :ซึ่งสำหรับผมตอนนี้ TGมันคือ JLหลังปี2010
เหลือแต่ภาพจบว่าจะเหมือนกันไหม... ผมรอดูอยู่นะครับ 


ปล. ถ้าถามผม ตอนนี้ TG ต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ จูงใจให้มากขึ้น ต้องยอมเสีย(เงิน) ปรับปรุงCXตอนนี้แล้วก่อนที่จะไม่มีโอกาสให้เสีย(ล้มหายไปเสียก่อน) 

#วิศวกรรมตลาด

Follow more insight on